->> หมวดหมู่และหัวข้อบทความ << คลิ๊ก
รีเลย์กำลัง16A บนบอร์ด ควรต่อโหลดอย่างไร ใช้งานได้กี่ครั้ง แนะนำ เปรียบเทียบ คำนวน
รีเลย์สวิทช์16Aภายในเครื่องตั้งเวลาทั่วๆไปที่ขายกัน มีข้อมูลหรือมาตรฐานอะไรที่บ่งบอกว่ามันจะใช้งานได้กี่ครั้ง?
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ รีเลย์ 16 แอมป์ทั่วไปในเครื่องตั้งเวลาที่ขายกันตามท้องตลาด ใน เช่นในเครื่องตั้งเวลา AHC15A ควรใช้งานโหลดสูงสุดได้กี่แอมป์และใช้งานได้กี่ครั้ง? เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่าตัวรีเลย์ในเครื่องจะใช้งานจริงๆได้มากสุดแค่ไหน และรีเลย์ที่ลงปริ๊นบางๆหรือมีการเชื่อมกับขาน็อตต่างๆจะสามารถใช้งานกับรีเลย์ตัวนั้นได้จริงหรือไม่ ก่อนจะเอาไปต่อใช้งาน
ภาพแสดง บอร์ดภายในของ ไทม์เมอร์ ตัวตั้งเวลา AHC15A ประกอบด้วย รีเลย์ภายในขนาด16A250V ถ่านกันไฟดับCR2450 จุดขันน็อตต่อสายไฟ และบอร์ดคอนโทรลหรือCPU ภาพมีลิขสิทธิ์ cc-nc by pui108diystore อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า โดยต้องระบุแหล่งที่มา
ภาพแสดง รายละเอียด รีเลย์ภายในตัวตั้งเวลา AHC15A ระบุยี่ห้อ Song Chuan(จีน) รุ่น 793-P-1C-F -datasheet[?]pdf- ไฟอินพุทสั่งงานคอยล์รีเลย์ 24VDC หน้าคอนแท็กหรือหน้าสวิทช์ทนได้ 16A 250VAC ภาพมีลิขสิทธิ์ cc-nc by pui108diystore อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า โดยต้องระบุแหล่งที่มา
แม้รีเลย์จะระบุว่าเป็นรีเลย์ชนิดกำลังขับสูง หรือพาวเวอร์รีเลย์ ที่มีขนาด 16 แอมป์ มาลองสนใจแค่ด้าต้าชีทในรีเลย์ก่อนว่าผู้ผลิตรีเลย์ระบุอะไรให้ใช้กับอะไรได้บ้างและใช้ได้กี่ครั้ง? เมื่อหาอ่านในคู่มือรีเลย์ข้างต้นพบว่า มีการระบุว่าผ่านมาตรฐานการทดสอบต่างๆ เช่นของ
[?wiki-all] UL/CUL Underwriters Laboratoreis(America) ,
CSA Canadian Standards Association ,
CQC China Quality Certification Center ,
TUV(TÜV) Technical Inspection Association (Germany)
นอกเรื่อง นิดนึง บางที่เราก็จะพบเครื่องหมายอื่นๆ [?sign-wiki] CCC , [?sign-wiki] CE
CCC China Compulsory Certificate ,แปลว่าการรับรองภาคบังคับของจีน คล้ายๆกับ มอก. บังคับแหละครับประมาณนี้
CE Conformance European ,แปลว่าผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการใช้งานในโซนยุโรป
ซึ่งผมคงไม่สามารถหาข้อมูลมาได้หมดว่าแต่ละมาตรฐานเขาทดสอบอะไร อย่างไร กี่ครั้ง? ผมจะยกเพียงประเด็นที่ทำให้ท่านผู้สนใจเห็นภาพรวมๆเป็นวงกว้างซึ่งจะสามารถนำไปต่อยอดได้เท่านั้น เพราะรายละเอียดมันเยอะมากๆ คล้ายๆไปอ่านคู่มือการทดสอบสวิทช์ของ มอก.นั่นแหล่ะ แต่ผมจะลงลึกลงไปเป็นบางอย่างให้พอเห็นภาพ เช่น UL ([?wiki] Underwriters Laboratories) หรือสถาบันที่ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ เข้าใจว่าUL เป็นสถาบันหนึ่งที่เป็นตัวแทนและออกคู่มือการทดสอบให้กับกระทรวงแรงงานของอเมริกา-OSHA ถ้าเทียบเป็นหน่วยงานทางราชการของไทยที่ออกคู่มือทดสอบของไทยจะเป็น [?site] TIS สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เรียกมาตรฐานย่อๆว่า มอก. นะครับ ในการทดสอบสวิทช์โดยเฉพาะรีเลย์และคอนแทกเตอร์จะทดสอบอิงตามคู่มือ [?officail site] UL 508 โดยปรกติต้องระบุปีที่ทำการอัพเดทคู่มือด้วย
ภาพตัดมาจากคู่มือผู้ผลิดรีเลย์ แสดงตารางของ รีเลย์ Song Chuan รุ่น793 ผ่านมาตรฐานอะไรมาบ้าง ใช้กับอะไรได้บ้าง แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้ได้กี่ครั้งต้องไปค้นหาเอาเองว่าแต่ละมาตรฐานทดสอบอย่างไรใช้งานได้กี่ครั้ง
จากตารางข้างบนปรากฎว่าผู้ผลิตรีเลย์จีนนี้บอกว่าผ่านมาตรฐานอะไรมามากมาย สามารถใช้เกินได้ถึง20Aที่ 277VAC ก็ได้ ใช้กับไฟดีซีที่30VDC ได้ถึง 20A หรือจะเอาไปใช้กับมอเตอร์ขนาด1/2hp (หรือมอเตอร์370W) 250VAC เขาระบุเอาไว้อีกว่าสามารถใช้กับ 8A 250VAC cos Ø =0.4 ซึ่งหมายถึงโหลด แลกกิ้ง ถ้าเป็นหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ชนิดบัลลาสต์ทองแดงไม่ติดคาปาซิเตอร์ ก็หมายถึงตัวนี้แหละครับ 8A ถ้าเป็นหลอดไฟ36วัตต์ จะใช้ได้มากถึง 16 หลอด แล้วๆใช้ได้กี่ครั้งครับ? คำตอบนี้ก็ไม่มีเหมือนกันครับ
ภาพตัดมาจากคู่มือผู้ผลิตรีเลย์ Song Chuan รุ่น793 กราฟแสดงจำนวนครั้งที่คาดว่าน่าจะใช้งานได้ กับกระแสไฟที่รีเลย์สามารถสวิทช์ได้ เฉพาะโหลดชนิดรีซีสทีฟ หรือโหลดฮีตเตอร์เท่านั้น เป็นไฟACที่ระบุไว้240โวลท์เอซีหรือไฟบ้านเรานั่นเอง
มาลองดูกันต่อครับ ข้างบนเป็นกราฟที่คาดว่ารีเลย์ใช้ได้กี่ครั้ง กับกระแสที่ป้อนเข้าไปด้วยไฟกระแสสลับ หรือAC และเป็นโหลดฮีตเตอร์เท่านั้น เช่นโหลดเตารีด หม้อหุงข้าว จะเห็นได้ว่าที่ 16A น่าจะใช้งานได้ 1แสนครั้ง (ถ้าเปิดปิดวันละครั้งควรจะอยู่ได้เป็น100ปี) 8Aสองแสนครั้ง 6Aสามแสนครั้ง ใช้ใกล้ๆ0-1A ต้องหลักล้านครั้งขึ้นไป
ข้อเท็จจริงของดาต้าชีทรีเลย์ Song Chuan(จีน) รุ่น 793-P-1C-F มีแต่เพียงเท่านี้ครับ
ซึ่งความจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่กราฟจัดไว้เลยครับเพราะเป็นกราฟที่คาดว่าน่าจะใช้ได้เท่านั้นครับ ซึ่งต่างกับผู้ผลิตรีเลย์รายอื่นๆจะระบุชัดเจนว่าผ่านมาตรฐานอะไรมาและอาจบอกมาเลยว่าใช้งานได้กี่ครั้ง และอย่างน้อยจะชัดเจนกว่าในเรื่องกราฟ ชัดเจนบอกว่าถ้าเป็นโหลดแลกกิ้งที่ค่าพาวเวอร์แฟ็กเตอร์ PF เท่าใดโวลท์เท่าใด จะใช้งานได้กี่ครั้ง ซึ่งจะสามารถคำนวนด้วยตัวเองคร่าวๆได้ทันทีว่าควรจะเลือกต่อ หรือเลือกใช้โหลดเท่าใด
ขอยกตัวอย่างรีเลย์ที่มีค่ากราฟอายุการใช้งานที่สมบูรณ์ เช่น รีเลย์ [?Fujitsu site-pdf] Fujitsu 16Amax FTR-K1AK 024E ซึ่งมีขนาดพอๆกันกับยี่ห้อข้างบนทนกระแสได้16A ,จากกราฟระบุว่า ; ใช้4.8A 250VAC cos Ø=พาวเวอร์แฟ็กเตอร์= PF=0.4 อายุใช้งานจะได้ 100,000 ครั้ง พอจะเทียบกับหลอดฟลู ออเรสเซนต์ 36วัตต์ชนิดคอยล์ทองแดงได้ประมาณ 10หลอด(กินไฟหลอดละ0.5A และมีค่าPF ประมาณ0.5) เป็นต้น ลองดูกราฟข้างล่างจะพอเข้าใจขึ้น
ภาพตัดมาจากคู่มือผู้ผลิตรีเลย์ Fujitsu รุ่น FTR-K1AK กราฟแสดงอายุการใช้งานเป็นจำนวนครั้งที่คาดว่าน่าจะใช้งานได้ กับกระแสไฟที่รีเลย์สามารถสวิทช์ได้ ซึ่งมีทั้งโหลดไฟไฟAC 250โวลท์ ทั้งชนิดโหลดความต้านทาน(Resistive) และโหลดชนิดแล็กกิ้ง ซึ่งระบุเป็นค่าพาวเวอร์แฟ็กเตอร์หรือ cos0.7 ,cos0.4 รวมถึงโหลดไฟฟ้าชนิดไฟ DC 24V อีกด้วยซึ่งมีความละเอียดมาก
ในกราฟอันเดียวกันของFujitsuนี้ ถ้าเราต้องการประยุกต์ใช้เช่นเอาไปสับโหลดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์เป็น 20 หลอด (10A) เราดูจากกราฟควรจะใช้งานได้ประมาณ4หมื่นครั้ง เป็นต้นจะเห็นว่ากราฟนี้มีประโยชน์มากพอสมควรโดยไม่ต้องคาดเดาหรือคำนวนมากเท่าไหร่ แต่ถ้าจะนำไปใช้จริงและต้องการให้อยู่ได้นานใกล้เคียงกับที่คาดไว้ทุกครั้งก็ควรใส่ตัวเผื่อค่าเซฟตี้แฟ็กเตอร์ลงไปด้วย
พอดีได้ค้นๆไป มีเอกสารของ [?Fujitsu site-pdf] file E63614 เป็นรายงานในปี2002 รีไวส์ปี2010 การทดสอบผ่านมาตรฐาน UL508 E63614 เป็นการทดสอบหน้าสวิทช์ของฟูจิสึ ในรุ่น FTR-K1 series ลองไปหาอ่านเอานะครับ พบว่า สมมติว่าเป็นรุ่น FTR-K1AK024E ซึ่งเป็นรุ่นคอนแท็กเดียวชนิดSPSTและทนกระแสได้สูงกว่าและคอนแทกทำจาก AgNi ดังที่ยกตัวอย่างในข้างต้น ระบุในรายงานการทดสอบผ่านมาตรฐาน UL508 file E63614 ว่า
Model FTR-K1AK (#1) (E) -all 85°C except noted
16 A ,24 Vdc , Resistive , 10,000 cycles
16 A , 277 Vac , Resistive , 100,000 cycles
20 A , 277 Vac , Resistive , 6,000 cycles
1 hp , 277 Vac , 6,000 cycles (75°C)
1/2 hp, 277 Vac, 30,000 cycles
Pilot duty , Code A300 , 6,000 cycles
จะเห็นว่ารีเลย์ fujitsu แสดงรายงานอย่างเป็นทางการ ว่าทดสอบผ่าน อะไรบ้าง และใช้งานได้กี่ครั้ง ซึ่งการยกตัวอย่างนี้ผมเพียงแต่ต้องการชี้ให้เห็นภาพกว้างๆของรีเลย์ประเภทนี้เท่านั้นว่าอะไรควรใช้ และใช้ได้กี่ครั้งโดยประมาณ ซึ่งแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นก็สร้างหรือออกแบบมาเฉพาะด้านต่างๆกันไป เอามาใช้แทนกันไม่ได้จนกว่าจะมีข้อมูลตรงกันว่าใช้แทนกันได้หรือเป็นรุ่นใหม่กว่า
กลับมาดูรีเลย์ จีนยี่ห้อนี้กันต่อ เนื่องจากเอกสารอ้างถึงการทดสอบ ว่าผ่านมาตรฐานต่างๆ แต่ไม่ได้ระบุจำนวนครั้ง และไม่ได้มีรายงานหรือไฟล์ที่อ้างว่าได้ผ่านจริง แต่มีหลายอันที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ TV-10 (อันนี้หาไม่เจอครับ) เท่าที่ค้นๆมาเจอใน UL 508 table46.1 endurance test หน้า97 ปี1999 [?pdf UL508 -siteจีน](ของฟรีที่พอหาได้)
และพอได้อ่านทำความเข้าใจบทความหรือคู่มือสวิทช์ ของ [?pdf-NKKswitchs.com] NKK switches (Electrical rating) , ตย. [?pdf] สวิทช์ NKK รุ่น JW ในดาต้าชีทจะอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับTV rating(ขนาดกระแสกระชากและกระแสปรกติเทสกี่ครั้ง) ที่มีการทดสอบ TV-5 ,TV-8 (TV=Television) ใช่ครับเขาเอาไว้เปิดปิดทีวีเป็นรีเลย์ที่ทนกระแสกระชากได้ดี แต่ส่วนใหญ่จะทดสอบที่ 120Vac ที่กระแสกระชากมากกว่า70-100A(เอาคร่าวๆนะ) และทดสอบที่25,000 ครั้ง ซึ่งถ้านำมาใช้หลอดไส้(Incandescent Lamp) ก็ถือว่าอยู่ในการทดสอบประเภทเดียวกันแต่หลอดไส้ซึ่งUL508ทดสอบแค่6000ครั้งเท่านั้น(จากตาราง46.1 ใช้เวลาเปิดไฟ1วินาที และปิด59วินาที ที่กระแสที่ระบุของแต่ละสวิทช์เช่น16A ที่อาจมีตัวคูณที่เหมาะสมเพิ่มจาก16A)(ซึ่งหลอดไส้มีกระแสกระชากสูง10-15เท่าของกระแสใช้งานปรกติ) อย่างไรก็ตามในการทดสอบสวิทช์ของ UL (Underwriters Laboratories) ในUL 508 ถ้านำไปใช้เปิดปิดมอเตอร์ทั่วไปจะทดสอบที่ฟลูโหลด(pf=0.5)ต้องได้อย่างน้อย 1,000 ครั้ง (ถ้า pf=0.75-0.8ฟลูโหลด ต้องได้6พันครั้ง) แมคคานิคหรือกลไกสวิทช์ต้องผ่านอย่างน้อยที่6000ครั้ง ถ้าเป็นฮีตเตอร์จะเทสที่100,000ครั้ง แต่ถ้าใช้งานทั่วไปทุกชนิดเทสที่6,000 ครั้ง(ไม่รวมสวิทช์ที่ใช้กับคาปาซิเตอร์นะ โหลดคาปาซิเตอร์จะเทสกับสวิทช์ รีเลย์ หรือคอนแท็กเตอร์ที่ใช้กับคาปาซิเตอร์เท่านั้น บางทีกระแสกระชากจะขึ้นถึง300เท่าของกระแสปรกติ จึงไม่ใช่งานทั่วไป และไม่รวมกับสวิทช์ที่ใช้กับลิฟท์ พวกนี้เป็นเฉพาะด้านที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจะต้องทดสอบที่5แสนครั้ง) สรุปห่วยสุดต้องได้1,000 ครั้ง(มอเตอร์)
ในที่นี้จากตารางถ้ารีเลย์ซองชวนได้มาตรฐานตามที่กล่าวอ้างนะดังตารางข้างบน ถ้าหมายถึงมอเตอร์ ขนาด1/2hp (370W) ที่250V น่าจะคาดว่าเดาๆว่า น่าจะควรได้ประมาณ 1,000 ครั้งเป็นอย่างน้อย หรือ6พันครั้งเป็นอย่างมาก ซึ่งมีสิทธิ์พังเมื่อไรก็ได้อาจไม่ถึงพันครั้ง แต่ถ้าเอาไปเดินแอร์หรือคอมเพรสเซอร์1ตัน 1ph 220v (ดูจากจำนวนVA กินไฟ ประมาณ1kw) ที่กินไฟ5-6แอมป์จริง แต่เปิดกระชากมหาโหดกว่าเยอะเพราะใช้แค๊ปรันตัวใหญ่มากประมาณ30uf 360V [?pic]ข้อมูล ตารางคอมแอร์ R22 รุ่น BTU โวลท์ กระแส และคาปาซิเตอร์ ก็อาจพังคามือไม่กี่ครั้งก็ได้
ขอจบแต่เพียงเท่านี้ก่อน หวังว่าจะพอนำรีเลย์เหล่านี้ไปต่อใช้โหลดให้อยู่ในขอบข่ายที่ทำให้ใช้ได้ทนทานและไม่พังง่าย ตามมาตรฐานที่เขาทดสอบกัน อย่างไรก็ตาม รีเลย์ หรือคอนแทกเตอร์ปัจจุบันปี2016 ประเทศจีนก็เป็นแหล่งที่ทำของปลอมออกมาเป็นจำนวนมาก ปลอมแม้แต่แบรนด์ดังๆที่ขายดีๆเกือบทุกแบรนด์และบางทีก็ปลอมของจีนกันเองอีกต่างหาก ปลอมภายนอกนี่เรียกว่าก๊อป100 ตั้งแต่หน้าตาสัญลักษณ์แบรนด์จนกระทั่งตรารับรองมาตรฐานทางไฟฟ้าเหมือนกันเกือบร้อยเปอร์เซนต์ ยกเว้นเมื่อใช้แล้วจะชำรุดภายใน1เดือน ขนาดซื้อร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าร้านประจำในเมืองไทยเอาไปซ่อมเครื่องจักรบางล็อตยี่ห้อดังๆยังมีของปลอมปนเลยครับ ดังผมจะยกตัวอย่างต่อไป ฉะนั้นจะหาความแน่นอนกับการต่อโหลดรีเลย์เหล่านี้ไม่ได้ จนกว่าจะซื้อสินค้าที่มาจากผู้ผลิตหรือดิสทรีบิวเตอร์โดยตรง ที่เหลือถ้าซื้อจากร้านทั่วไปได้ของปลอมมาต้องเคลมครับ เครมทั้งๆที่มันชำรุดแหละครับ แม้ไม่ได้มีข้อตกลงเรื่องประกันแต่คนซื้อต้องการของแท้มียี่ห้อกลับได้ของปลอมปนมาถือว่ามีสิทธิ์ครับสิทธิตามกฎหมายผู้บริโภค
-
Know--มารู้จัก รีเลย์คืออะไร ทำงานอย่างไร
รีเลย์(Relay) หรือรีเลย์สวิทช์ ถ้าพูดลอยๆหลายคนที่ไม่เคยสัมผัสจะไม่เข้าใจเพราะส่วนใหญ่จะใช้กับไฟฟ้าโรงงาน หรืออยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้าน เช่นแอร์ หรืออยู่ในรถยนต์ แต่ถ้าใครเคยเล่นรถกระป๋องที่โมดิฟายมอเตอร์มาแรงๆการต่อรีเลย์เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากสวิทช์เล็กๆที่เปิดปิดด้วยมือเวลาเล่นรถกระป๋องจะทนกระแสได้น้อย เวลาเปิดมอเตอร์รถกระป๋องจะกินกระแสสูงกว่าจึงต้องใช้รีเลย์ช่วยเปิดส่งต่ออีกทีหนึ่ง ภาพด้านล่างแสดงการทำงานของรีเลย์เมื่อจ่ายกระแสเข้าคอยล์(ขดลวด) จะเกิดสนามแม่เหล็กและกระทำให้หน้าสวิทช์หรือคอนแท็กที่อยู่ในตัวรีเลย์ทำงานเลื่อนไปแจะหรือไปแตะสวิทช์อีกด้านนึงเหมือนกับการเปิดสวิทช์ไฟฟ้านั่นแหละ
ภาพgifอนิเมทชั่น20วินาทีวน-แสดง การทำงานและส่วนประกอบ รีเลย์ยี่ห้อ OMRON รุ่น LY2 หน้าสวิทช์ทนได้10A ใช้ไฟอินพุท 220VAC ประกอบด้วย --คอยล์(Coil)หรือขดลวดที่ทำหน้าที่สร้างสนามแม่เหล็ก --คานหรือแอก(Yoke)ทำหน้าที่ส่งผ่านสนามแม่เหล็ก --แขนหรือแผ่นล่อแม่เหล็ก(Armature)ทำหน้าที่เคลื่อนที่ดังรูปคล้ายกับการดูดติดเพื่อให้สนามแม่เหล็กวิ่งผ่านแกนคอยล์ แอกและแขนครบวงจรแม่เหล็ก --สปริง(Spring)ทำหน้าที่ให้แขนโยกกลับไปตำแหน่งเดิมเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็ก --หน้าสวิทช์หรือหน้าคอนแทก(Contacts)ซึ่งติดกับแขนล่อแม่เหล็กทำหน้าที่เปิดปิดไฟฟ้าตามไฟที่จ่ายเข้ามา ภาพมีลิขสิทธิ์ cc-nc by pui108diystore.com อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า โดยต้องระบุแหล่งที่มา
เวลาเราเปิดปิดหลอดไฟในบ้าน เช่นสวิทช์สำหรับเปิดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ กระแสไฟจะเดินไปตามสวิทช์ไฟและไฟตามรูปข้างล่างนี้ เราสามารถแทนปุ่มสวิทช์ที่ใช้มือกดด้วยรีเลย์ได้ โดยเราจะเปิดปิดรีเลย์ได้ก็ต้องส่งไฟฟ้าไปยังคอยล์รีเลย์ให้ทำงานเปิดปิดแทนการใช้มือกดปุ่มเองโดยตรง
ภาพGifอนิเมทชั่น46วินาที-วนแสดง การทำงาน วงจรหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ สวิทช์เปิดปิดธรรมดาเมื่อเปิดปิดหลอดไฟ เมื่อนำรีเลย์มาต่อเข้าไปเพื่อตัดต่อไฟฟ้าหรือเปิดปิดไฟฟ้าแทนการกดเปิด-ปิดด้วยมือโดยตรง วงจรไฟฟ้าจะเป็นดังรูป ภาพมีลิขสิทธิ์ cc-nc by pui108diystore อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า โดยต้องระบุแหล่งที่มา
----
รีเลย์นับเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม หรือนำไปติดตั้งในอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้รองรับกับการใช้งานประเภทต่างๆ เช่น รีเลย์ประเภทสัญญาณ หน้าคอนแทคจะมีส่วนประกอบของทอง ทำให้ส่งสัญญาณที่มีค่ากระแสไฟฟ้าต่ำๆระดับมิลลิแอมป์ได้ดี จนกระทั่งมีรีเลย์ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นประเภทพาวเวอร์รีเลย์ ซึ่งทั้งแรงดูดแม่เหล็กและหน้าสัมผัสจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และวัสดุหน้าสวิทช์(หน้าสัมผัส ,หน้าคอนแทก คือตัวเดียวกันครับ)จะถูกสร้างเพื่อรองรับโหลดไฟฟ้าต่างๆกัน บางชนิดรับโหลดฮีตเตอร์ได้ดี บางชนิดรับโหลดมอเตอร์ได้ดี บางชนิดรับกระแสกระชากสูงได้ บางชนิดก็ทำออกมาแบบกลางๆคือดีหลายอย่างแบบกลางๆ ซึ่งสมัยก่อนหน้าคอนแทคที่ทนทานที่ทำโลหะผสมมีส่วนผสมของแคดเมี่ยมซึ่งทำให้มีความทนทานสูง แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีใช้แล้วเพราะแคดเมี่ยมเป็นโลหะที่เป็นพิษต่อมนุษย์ จึงใช้เป็นเงินผสมแทน
ภาพ รีเลย์ในภาคอุตสาหกรรม ขนาด10A ยี่ห้อ OMRON รุ่น LY coil input 220Vac ซึ่งนิยมใช้ในเครื่องจักร เพื่อควบคุมส่งสัญญาณ หรือตัดต่อคอยล์ สวิทช์ หรือมอเตอร์ขนาดเล็กไม่เกิน100วัตต์ มึความทนทานสูง ยี่ห้อOMRONนี้เป็นแบรนด์ของญี่ปุ่น จะเห็นว่าภาพด้านขวาบนที่เป็นฝาพลาสติกจะมีสัญลักษณ์ RU เอียงเข้มๆ เป็นการรองรับว่าผ่านการทดสอบ UL 508 แล้ว ภาพลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้โดยต้องระบุแหล่งที่มาและไม่ใช่เพื่อการค้า CC-NC by pui108diy
ส่วนใหญ่รีเลย์จะไม่ได้ถูกสร้างมาให้ใช้กับมอเตอร์และคาปาซิเตอร์เนื่องจากหน้าสัมผัสที่เล็กทนกระแสไฟปรกติไม่เกิน16-25A ไฟกระแสสลับ รีเลย์จึงไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์เหล่านี้ได้เพราะไม่ได้สร้างมาเพื่อรองรับการทำงาน มนุษย์จึงสร้างสวิทช์แม่เหล็กที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ที่เรียกว่า แม็กเนติกคอนแท็กเตอร์ จริงๆก็มีหลักการทำงานเหมือนกับรีเลย์เพียงแต่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก ดังรูปข้างล่าง
ภาพอนิเมชั่น จำลองการทำงานของ คอนแท็กเตอร์แอร์ Totaline 2ขา 1สวิทช์ 1เฟส 220Vac 25A รุ่น HCCY1XU01AA102C จะเห็นได้ว่าหลักการทำงานแทบจะเหมือนกับรีเลย์ทุกประการแต่กลไกรวมถึงหน้าสวิทช์มีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก จะเห็นว่าขั้วชุดด้านซ้ายที่ไม่มีหน้าสวิทช์เมื่อนำไปต่อใช้งานจะต้องต่อทาง N -นิวทรอล เท่านั้น ส่วนหน้าสวิทช์ด้านขวาจะต่อกับไลน์ L หรือสายที่มีไฟถ้าใช้ไขควงเช็กไฟเช็ก ภาพลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้โดยต้องระบุแหล่งที่มาและไม่ใช่เพื่อการค้า CC-NC by pui108diy
---
ภาพด้านข้าง เนมเพลท คอนแท็กเตอร์แอร์ Totaline 2ขา 1สวิทช์ 1เฟส 220Vac(208/240VAC 50/60 Hz) 25A รุ่น HCCY1XU01AA102C ในเนมเพลท FLA=กระแสปรกติที่มอเตอร์ทำงาน , LRA แปลง่ายๆว่ากระแสสตาร์ทกระชากหรือทนกระแสในขณะที่มอเตอร์ค้างไม่หมุน ,RES กระแสที่ใช้กับโหลดความต้านทาน ในขณะแต่ด้านขวาจะเห็นสัญลักษณ์ RU ซึ่งเป็นการแสดงว่าผ่านการรับรองมาตรฐานUL 508 ซึ่งถ้านำไปใช้กับมอเตอร์1เฟส ขนาด220V สามารถขับมอเตอร์ที่มีขนาด1-3 hp ได้อย่างสบาย และต้องเปิดปิดได้อย่างน้อย6000ครั้งขึ้นไป ซึ่งราคา(ไม่เกิน200บาท)จะค่อนข้างถูกกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อ แม็กเนติกคอนแท็กเตอร์3เฟส ขนาด20A ยี่ห้อดีๆเมื่อนำมาใช้กับมอเตอร์ที่มีขนาด3hp ราคาจะแพงกว่าเท่าตัว ภาพลิขสิทธิ์ อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้โดยระบุแหล่งที่มาและไม่ใช่เพื่อการค้า CC-NC by pui108diy
ถ้าเราต้องการนำแม็กเนติกคอนแท็กเตอร์ (Magnetic Contactor) มาใช้ตามบ้านเช่นคุมปั๊มน้ำ1เฟส สำหรับงานอะไรก็ตามเช่น ปั๊มน้ำสำหรับรดน้ำในไร่โดยเฉพาะซึ่งมีปั๊มขนาดค่อนข้างใหญ่ หรือพัดลมระบายอากาศหลายๆตัว(ที่มีขนาดรวมกันไม่เกิน2hp) ผมแนะนำให้ใช้คอนแท็กเตอร์แอร์ ราคาประหยัดกว่ามาก ตัวที่เห็นด้านบนเป็นยี่ห้อค่อนข้างดีครับ ถ้าซื้อตัวถูกยี่ห้ออื่นเกรดรองลงมา ราคาแค่ร้อยต้นๆครับ แต่ต้องเลือกขนาดให้ดีนะครับ ถ้าไม่ถึง1hp ใช้ได้ไหม ตอบว่าใช้ได้สบายครับ
แม็กเนติกคอนแท็กเตอร์ แอร์ ขาเดียว 220V 1เฟส โดยทั่วไป
ขนาด 20A จะขับมอเตอร์ได้ 1-2 hp (745W-1500 วัตต์)
ขนาด 25A จะได้ 1-3 hp ถ้าใช้ขนาด 3hp (2.25kw) บ่อยๆ แนะนำให้ใช้
ขนาด30A จะได้ 1-3 hp ซึ่งหน้าสวิทช์มีขนาดใหญ่ขึ้นตามขนาดกระแส
ใช้ทนจนลืมครับ แถมไม่แพง เพราะจำนวนแอร์ของทั้งประเทศรวมกัน มีแม็กเนติกแอร์รวมกันอาจมากกว่าแม็กเนติกสามเฟสที่ติดในเครื่องจักรทั้งประเทศ ในเมื่อมันมีจำนวนเยอะผลิตออกมาเยอะมันจึงมีราคาถูกกว่าแม็กเนติกสามเฟสมากในขนาดที่ทนกระแสได้พอๆกัน ที่แนะนำอย่างนี้เพราะตอนแรกผมก็ซื้อแบบแม็กเนติกสามเฟสเหมือนกันเคยซื้อแบบจะเอาไปใช้กับปั๊ม2kw 1เฟส 220V ก็ต้องซื้อแม็ก3เฟสแบบ20A ราคาลูกนึงก็350-500ได้ครับ ถ้าต้องการเปิดปิดปั๊มน้ำเฟสเดียวละก็ใช้แม็กแอร์ดีกว่าครับ ราคาไม่เกิน200 บาท ได้20-30A ที่สำคัญคือต่อให้ถูกก็ใช้ได้แล้วครับ
แนะนำ เปรียบเทียบ ตัวอย่างคำนวน การเลือกใช้โหลดทั่วไปกับรีเลย์กำลัง 8-16A ตัวอย่างการเสียหายปรกติของรีเลย์ และรีเลย์ปลอม
--ตัวอย่างการเสียหายปรกติของรีเลย์ และ รีเลย์ปลอม
หลังจากอ่านเนมเพลทของรีเลย์ส่วนใหญ่จะมีสัญลักษณ์ต่างๆแสดงมาตรฐานรับรองทางไฟฟ้า ถามว่าเนมเพลทปลอมกันได้ไหม ปลอมได้ครับและเกลื่อนเลย ดังผมจะยกตัวอย่าง พาวเวอร์รีเลย์ของยี่ห้อOMRON LY4 ตัวข้างล่างครับ ตัวซ้ายซื้อมาใช้ไม่ถึงเดือนไปแล้วครับ หน้าตาอะไรก็ดูน่าเชื่อถือซื้อก็ซื้อจากร้านเจ้าประจำ แต่จากประสบการณ์ถ้าเป็นของแท้ไม่เคยเจอเสียสักครั้งใส่แล้วเสียนี่ปลอมแน่นอนครับ ของปลอมนี่บางทีเจอกันเป็นล็อตๆทีละ50-60ตัว ใส่ทั้งหมดแล้วเครื่องรวน ก็เคลมทั้งหมดแหละกับร้านที่ซื้อ รุ่นข้างล่างนี้ลูกนึงก็ตกประมาณ3-4ร้อยได้
ภาพแสดงรีเลย์ยี่ห้อ omron รุ่น LY4 ขนาดคอนแท็ก10A ของปลอมVS ของแท้ ที่ผ่านการใช้งานแล้วและเกิดการชำรุดจริง ตำแหน่งการทำงานเดียวกัน ส่วนใหญ่จะนำไปตัดต่อสัญญาณและวาล์วไฮดรอลิก ของปลอมอายุการใช้งานไม่ถึง1 เดือน ส่วนของจริงมีอายุมากกว่า10ปี ผ่านการใช้งานมากกว่า 10ล้านครั้ง ภาพมีลิขสิทธิ์ cc-nc by pui108diy อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า โดยต้องระบุแหล่งที่มา
การอาร์กติดกันของหน้าสวิทช์หรืออาร์กจนหน้าสัมผัสหลอมทะลุในรีเลย์หรือคอนแท็กเตอร์ซึ่งถือว่าเป็นการเสียหายขั้นรุนแรงและไม่ปรกติ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้กับมอเตอร์หรืออุปกรณ์ที่กินกระแสสูงๆมากกว่า5Aแล้วใช้นานจนหมดอายุแต่ยังฝืนใช้งานไปเรื่อยๆหรือนำไปต่อโหลดที่กระแสเกินกว่ารีเลย์หรือคอนแท็กเตอร์จะรับได้หรือใช้งานในสภาพฝุ่นเยอะ
4545อาการเสียหายโดยทั่วไปถ้าใช้กันตามเกณฑ์กระแสที่สวิทช์ทนได้เช่นรีเลย์สวิทช์10Aที่มีคุณภาพอย่างดี(ยี่ห้อดีๆของแท้) เช่น รีเลย์ LY4 ดังรูปข้างบนขวามือตัวที่ดำเมี่ยมนั่นแหละ เมื่อเรานำมาใช้ตัดต่อวาล์วไฟฟ้าที่กินไฟประมาณ0.4A 220Vac ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทางแมคคานิคของรีเลย์ส่วนใหญ่จะสามารถทำงานได้ประมาณ10ล้านครั้งขึ้นไป ส่วนทางไฟฟ้ารุ่นLY4จะใช้งานได้2แสนครั้งที่10A แต่ถ้านำมาตัดต่อไฟฟ้าที่น้อยกว่า10Aเช่นวาล์วไฮดรอลิกไฟฟ้าซึ่งใช้กระแสปรกติเพียง0.4แอมป์220V เนื่องจากเป็นโซลีนอยด์วาล์วจะมีกระแสกระชาก(inrush current)ตอนวาล์วเริ่มดูดก้านเตะซึ่งมีกระแสสูงสุดอยู่ที่2.4A(อิงยี่ห้อyuken DSG-03 ตามดาต้าชีทที่ระบุ) ซึ่งถ้าทำงานวันละ2,000-3,000 ครั้ง จะใช้งานเฉลี่ยได้มากที่สุดคือ6ปี(ข้อมูลของผมเองไม่ได้อิงจากใคร) หรือประมาณ6-ล้านครั้ง ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนที่6ล้านครั้ง(สำหรับผมนะ) การเสียหายที่เกิดขึ้นจะเรียกว่าหน้าสัมผัสเยินผสมกับมีเขม่าที่หน้าสัมผัสอย่างนี้โดยทั่วไปจะเรียกว่าติดๆดับๆหรือสวิทช์กดแล้วไม่ทำงาน อย่างนี้คือการเสียหายปรกติ ดังรูปทางขวามือด้านบนเรียกว่ายับเยินทนใช้ไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะใช้ไม่ได้ ส่วนด้านซ้ายตัวใหม่ๆเป็นรีเลย์ปลอมก็เหมือนกันเพียงแต่หน้าสัมผัสมันติดๆดับๆไม่ทำงานไปดื้อๆ เรียกว่าวัสดุทำหน้าสัมผัสหรือหน้าคอนแท็คเป็นของไม่ดี จะปลอมก็ควรปลอมให้ใช้งานได้นานๆจะดีมาก มีอีกตัวอย่างคือเม็ดหน้าสัมผัสมันหลุดออกมาเลยด้วยซ้ำไปครับ
----รูปประกอบรีเลย์บนบอร์ดมีแผ่นโลหะเชื่อมกับลายปริ๊น ไทม์เมอร์ AHC15A มีเพียงบางยี่ห้อ
โดยทั่วไปรีเลย์พาวเวอร์ขนาด10-16Aที่ใช้การบัดกรีติดบนบอร์ดเหล่านี้ส่วนใหญ่ โดยรวมบอร์ดมักไม่ได้สร้างมาเพื่อใช้งานกระแสสูงๆ และบอร์ดส่วนใหญ่ก็เป็นลายปริ๊นทองแดงธรรมดาที่บางมากนำมาลงตะกั่วให้หนาหน่อยเท่านั้น เมื่อผ่านการใช้งานกระแสสูงๆมากกว่า5A รีเลย์บนบอร์ดส่วนใหญ่จะสร้างทั้งแรงสั่นสะเทือนและเกิดความร้อนสูงเมื่อหน้าสัมผัสเริ่มมีอายุใช้งานไปหลายๆครั้ง ส่งผลทำให้ลายปริ๊นที่ลงตะกั่วบัดกรีแตกและปริ๊นกรอบ โดยปรกติดาต้าชีทของรีเลย์ชนิดลงปริ๊นจะไม่แนะนำให้ใช้การบัดกรีด้วยลวดบัดกรีที่มีส่วนผสมของตะกั่วในปริมาณสูงต้องเป็นลวดบัดกรีที่มีความแข็งสูงกว่าทนความร้อนดีกว่าเช่นอาจมีดีบุกเยอะมีตะกั่วก็มีน้อยกว่าหรือไม่มียิ่งดี แต่ถ้าปริ๊นมีการออกแบบมาเฉพาะให้ใช้กระแสสูงๆจะไม่ใช้ลายปริ๊นทองแดงเป็นตัวนำไฟฟ้าเพราะมันล่อนได้ง่ายเมื่อความร้อนสูงขึ้นซึ่งจะใช้เป็นแผ่นโลหะที่ตัดเป็นลายปริ๊นเชื่อมลงไปกับปริ๊นแทนซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก
บอร์ดที่มีรีเลย์พาวเวอร์บนบอร์ดของ AHC15A ที่ไม่มียี่ห้อนี้ เป็นลายปริ๊นธรรมดาไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ จึงควรใช้รีเลย์พวกนี้ในลักษณะส่งสัญญาณไฟฟ้าที่มีกระแส1-2A(ควรใช้งานได้1แสนครั้ง)ให้ไปสั่งขับรีเลย์หรือคอนแท็กเตอร์เฉพาะด้านที่สร้างมาเฉพาะสำหรับขับ หลอดไฟ ฮีตเตอร์ มอเตอร์ หรือคาปาซิเตอร์ ซึ่งมีการสร้างมาเฉพาะทั้งขนาดหน้าสวิทช์ วัสดุหน้าสวิทช์ ถ้าจะนำไปใช้โดยตรงก็ไม่ควรเกิน 4-5A อันนี้เป็นความคิดเห็นของผมโดยส่วนตัว ไม่ได้มีหลักการอะไรมากกว่าที่กล่าวมาข้างต้น
ถ้าเราสนใจแต่รีเลย์โดยที่ไม่สนใจปริ๊นว่าทำมาดีหรือไม่ ต้องการนำไปใช้ต่อโดยตรง เช่นเอาไปตัดต่อหลอดไฟง่ายๆโดยตรงทำได้หรือไม่ ควรใช้ขนาดโหลดเท่าไร และควรใช้งานได้กี่ครั้ง คำนวนอย่างไร?
คำตอบคือเอาไปใช้งานได้ครับ ตัดต่อโดยตรงก็ได้ แต่อายุใช้งานมันจะสั้นลง ไม่ถึงแสนครั้ง แต่ถ้าเราเอาไปใช้เปิดปิดหลอดไฟ อยากใช้งานเปิดปิดวันละ1-16ครั้งอยากให้ใช้งานได้ถึง 10 ปี แล้วค่อยเสียซื้อใหม่ เราจะหาข้อมูลว่าควรต่อกี่หลอดและกระแสไฟฟ้าเท่าไหร่จากที่ไหนดี? --
วิธีการคำนวนอย่างละเอียด ความเป็นมาเป็นไป หาอ่านได้ที่>> การเลือกสวิทช์ รีเลย์ คอนแทกเตอร์ หรือเบรกเกอร์ จาก กระแสไฟ inrush current และกระแสไฟอื่นแยกตามชนิดโหลด
ผมขอยกตัวอย่างสวิทช์พานาโซนิค16Aที่ใช้เปิดปิดตามบ้าน กับรีเลย์มาตรฐานยี่ห้อหนึ่งคือออมรอน รุ่นLY2 ที่มีขนาด10A เพื่อทำความเข้าใจพื้นฐานง่ายๆกันก่อนต่อไป ---
ภาพการ์ตูน เปรียบเทียบ การต่อโหลด จำนวนครั้งที่ใช้งานได้ ของ สวิทช์ panasonic รีเลย์ omron LY2 การคำนวนจำนวนครั้งของสวิทช์พานาโซนิคอ้างอิงจากข้อมูลการผ่านมาตรฐานการทดสอบของ-มอก.824-2551- ซึ่งไม่ได้มาจากจำนวนครั้งจริงที่ได้จากข้อมูลผู้ผลิต และในส่วนของฮีตเตอร์ก็เป็นการอนุมาณว่าใช้ได้เท่านั้นแต่ความจริงสวิทช์ดังกล่าวออกแบบมาให้ใช้กับไฟส่องสว่างเท่านั้น ส่วนข้อมูลโหลดและจำนวนครั้งของรีเลย์ omron LY2 นำมาจากข้อมูลของผู้ผลิตโดยตรง ภาพมีลิขสิทธิ์ cc-nc by pui108diy อนุญาตให้ดัดแปลงทำซ้ำได้ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า โดยต้องระบุแหล่งที่มา
ปัญหาต่อมาคือ เรารู้อยู่อย่างเดียวว่า สวิทช์ไฟ หรือรีเลย์ เราซื้อยี่ห้อมาตรฐานอย่างดีไม่มีปลอมแล้ว เราก็รู้อยู่อย่างเดียวว่า สวิทช์ไฟนั้นมีฉลากระบุว่าทนกระแสได้สูงสุด 16A เราจะต่อหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่บ้าน(ชนิดบัลลาสต์ทองแดง และไม่ได้ติดคาปาซิเตอร์เพื่อแก้ไขพาเวอร์แฟ็กเตอร์ การติดคาปาซิเตอร์ส่วนใหญ่ใช้กับโรงงานทำให้ค่าไฟลดลง ส่วนตามบ้านติดไม่ติดค่าไฟก็เท่าเดิมเพราะเขาคิดราคาเต็มสำหรับตามบ้าน) เราสามารถต่อหลอดไฟนี้ได้กี่หลอด? แล้วให้ใช้งานยาวๆนานๆ
สมมติว่า เราเลือกใช้สวิทช์ไฟฟ้า panasonic WEG5001K รุ่น Wide series หรือสวิทช์เนใหม่ซึ่งมีหน้าตาตามข้างล่าง และยังระบุอีกต่างหากว่าผ่านมาตรฐานการทดสอบ มอก.824-2551 (TIS 824-2551 Approved) และฉลากก็ยังระบุว่า สามารถใช้กับไฟ 220V กระแสไฟฟ้า 16แอมป์ ได้
ดูในรูปการ์ตูนข้างบน ที่ผมแนะนำว่าสวิทช์ไฟพานาโซนิค ให้ใช้งานกับหลอดฟลูออเรส(เซนต์บัลลาสต์คอยล์ทองแดงไม่ติดคาปาซิเตอร์)ไม่เกิน10ดวง และสามารถใช้งานได้มากกว่า4หมื่นครั้ง แล้วยังบอกว่าเป็นการคำนวน(ส่วนตัว)ที่อ้างอิงมาจากการทดสอบของ มอก.824-2551 ซึ่งถ้าเมื่อไปอ่านในมอก.ดังกล่าว มีการทดสอบความทนทานทางไฟฟ้าและกลไก อยู่สองแบบสำหรับสวิทช์เปิดปิดไฟตามบ้านและต้องผ่านทั้งสองการทดสอบจึงจะมีโอกาสผ่าน มาตรฐานของ มอก. มีดังนี้
1 แบบแรกเอาไปทดสอบกับหลอดไส้หลายหลอดต่อขนานกันให้ได้กระแสใช้งานปรกติ19.2A ซึ่งมีขนาดหลอดไส้ความกันประมาณ4พันวัตต์ และต้องทดสอบได้4หมื่นครั้ง จึงจะผ่านการทดสอบจากมอก.ขั้นแรก
2 แบบที่สอง เอาไปทดสอบกับวงจรสมมูล หรือวงจรเสมือนที่จำลองให้เหมือนกับโหลดหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่มีการติดคาปาซิเตอร์เพื่อแก้ไขค่าพาวเวอร์แฟ็กเตอร์ โดยวงจรเสมือนก็จะทำหน้าที่จ่ายโหลดให้กระแสใช้งานปรกติ 19.2A แต่การกระชากเหมือนกับวงจรสมมูลดังกล่าว และทดสอบต้องผ่านที่5พันครั้ง
ใช่ครับผมควรจะตอบว่า 5 พันครั้งใช้กับหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วๆไปที่มีกระแสรวมกันไม่เกิน19.2A ควรใช้งานได้ 5พันครั้ง 19.2Aนี่เท่ากับหลอดไฟกี่หลอด
หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ขนาด 36W ชนิดหม้อแปลงขดทองแดงและไม่ติดแค๊ป กินไฟ 0.5A ที่220Vac
จน.หลอดที่ใช้ได้ = 19.2 A / 0.5 A = 38 หลอด
ใช่แล้วครับสามารถใช้ได้มากถึง 38 หลอด โดยต้องผ่านเกณท์ 5พันครั้ง แต่การทดสอบของมอก. เป็นการทดสอบตามสภาวะที่สุดขั้วโดยใช้เครื่องกดสวิทช์เป็นชุดๆ แล้วพักดูว่ามันไม่เสียหายแล้วก็กดไปอีกเป็นชุดๆ คือทดสอบให้พัง ถ้าไม่พังก็ให้ผ่าน ฉะนั้นเอาค่า38 หลอดมาใช้จริงไม่ได้ อาจเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้งาน เพราะสวิทช์สร้างขึ้นมาอาจมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยจากโรงงานที่ทำให้เสียหายโดยไม่คาดคิด
วิธีคำนวนอย่างง่ายๆ เนื่องจากทางพานาโซนิคไม่เคยออกดาต้าชีทว่าเราควรเอาไปต่อได้กี่หลอดแล้วใช้งานได้อย่างปลอดภัย และใช้งานได้กี่ปีกันแน่? ผมจึงขอเสนอการคำนวนดังนี้
สวิทช์ 16A คำว่า 16A ปรกติจะกล่าวถึงความสามารถในการเปิด-ปิดโหลดความต้านทาน หรือโหลดเตารีดก็ได้จะเข้าใจได้ง่ายกว่า เมื่อเปิดเตารีด 3ตัว จะได้ 1000วัตต์*3 =3000 W ซึ่งกินกระแสไฟโดยประมาณคือ15A 220V โหลดเตารีดถือว่ากระแสกระชากไม่มี เอาง่ายๆคือกดเปิด-ปิดสวิทช์หรือเสียบปลั๊กไฟจะไม่แลปเท่าไหร่ไม่แลบรุนแรง แต่ถ้าเป็นทีวีหรือ หม้อแปลงที่เป็นหม้อแปลงอีเล็กทรอนิก เอาง่ายๆก็พวกหม้อแปลงที่เอาไว้เสียบชาร็จมือถือแหละถ้าเสียบชาร์จเอาไว้ก่อนแล้วค่อยเอาหม้อแปลงเสียบเข้าเต้ารับจะเห็นว่าไฟแลบรุนแรงกว่ามากถ้าเป็นหม้อแปลงหลายๆตัวทั้งโนํตบุ๊คหรืออื่นๆเสียบพร้อมกันทีเดียวให้ได้15A220Vก็แทบจะไฟลุกออกจากปลั๊ก ซึ่งเขาจะเรียกว่ากระแสกระชาก ซึ่งสิ่งใดก็ตามที่ไม่ใช่โหลดเตารีดส่วนใหญ่จะมีกระแสกระชากมากน้อยต่างกันตามพฤติกรรมของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น
1 หลอดไส้มีกระแสกระชาก 10-15เท่าของกระแสปรกติ กินเวลาไม่เกิน130มิลลิวินาที เช่นหลอดไฟ 200 วัตต์ ปรกติกินไฟประมาณ 0.9A ที่220V แต่ตอนเปิดมีไฟแลบกระแสกระชาก 9 -13.6A
หลอดไส้ผมแนะนำให้ใช้แค่200 วัตต์ต่อ1สวิทช์มอก.16A ด้วยเหตุผลข้างต้น คือกระแสกระชากไม่เกิน 16A สามารถใช้งานได้ยาวนานมากกว่า40,000 ครั้ง
แต่ถ้าต้องการใช้หลอดไส้1000วัตต์ จะได้ไหม? สามารถฝืนใช้ได้ครับ และก็ควรระลึกเอาไว้เสมอว่าเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากหลอดไส้ทังสเตนขนาด1000วัตต์ กระแสปรกติ ประมาณ 5 แอมป์ กระแสกระชากประมาณ 50-75A ซึ่งควรเข้าใจว่ามันเกินเรทที่สวิทช์ระบุในทางการคำนวน แต่ในทางปฏิบัติสวิทช์มอก.ได้ถูกทดสอบมากกว่านี้ด้วยหลอดไส้4000 วัตต์ อย่างไรก็ตามถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นเกณฑ์ควรมีการสังเกตสวิทช์ทุกครั้งก่อนเปิดและหลังเปิดทั้งเรื่องความร้อนและไฟแลบและควรเปลี่ยนทิ้งเมื่อพบความผิดปรกติหรือไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัย และควรใช้เป็นพวกเบรกเกอร์จะมั่นใจมากกว่าในเรื่องความปลอดภัย
จากประสบการณ์ผมสมัยก่อนสวิทช์6-10Aหลังเต่าทั่วไป20กว่าปีก่อน(สวิทช์สมัยก่อนที่สวิทช์เรืองแสงได้) นำมาเปิดไฟสป็อทไลท์หลอดไส้200วัตต์ สวิทช์จะไฟแลบรุนแรงมากเมื่อใช้ไปสัก50-100 ครั้งจะมีคราบดำๆตามขอบสวิทช์เกิดขึ้นและมีความร้อนเกิดขึ้นที่สวิทช์อีกด้วยพอสมควร หลังจากนั้นผมก็ไม่กล้าเปิดอีกเลย แต่กลับกันนำมาใช้กับไฟฟลูออเรสเซนต์เปิดปิดทุกวันเป็นเวลากว่า20ปี 6-7จุด ก็มีสวิทช์เสียเพียงจุดเดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนใหม่
2 หลอดฟลูออเรสเซนต์ ชนิดบัลลาสต์คอยล์ทองแดงไม่ติดแค๊ป มีกระแสกระชาก 1.35-1.5เท่าของกระแสปรกติ ซึ่งเป็นโหลดของขั้วทังสเตนทั้งสองด้านซะส่วนมาก กระแสไฟฟ้าใช้งานปรกติของหลอดไฟ36W จะกินไฟ 0.5A 220Vac แต่ตอนเปิดมีไฟแลปเกิดจากกระแสกระชาก1.5เท่า =0.75A เป็นต้น
การนำไปใช้กับมนุษย์ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นเกณท์สำคัญ จึงให้ค่าความปลอดภัย=2เท่า
เนื่องจากผ่านมาตรฐาน มอก. สำหรับโหลดหลอดไส้ ใช้ได้40,000 ครั้งที่ 19.5A
ฉะนั้นเราใช้กันตามเกณท์ 16A และ กระแสกระชากก็ไม่เกิน 16A ก็ต้องใช้งานได้ 40,000 ครั้ง
เราเผื่อความปลอดภัยเป็น2เท่า ฉะนั้น ควรใช้งานไม่เกิน 8A โดยที่กระแสกระชากก็ไม่เกิน8A ก็ควรใช้งานได้เกิน 4หมื่นครั้ง
เราเอากติกาใหม่นี้มาคำนวนหลอดฟลูอเรสเซนต์ ในข้อ2 ฟลูออเรสเซนต์ในข้อ2 มีกระแสกระชากประมาณ1.5เท่าของกระแสปรกติ คือแต่ละหลอดมีกระแสปรกติ0.5A ฉะนั้นกระแสกระชากคือ 0.75A =กระแส1หลอด
จำนวนหลอดไฟฟลูอเรสเซนต์(บัลลาสต์คอยล์ทองแดงไม่ติดคาปาซิเตอร์) ที่ใช้ได้ปลอดภัย = 8A/0.75 A =10.6 หลอด ตีไป10หลอด
***จบการพิสูจน์ และมันก็ควรใช้งานได้ มากกว่า 4หมื่นครั้ง****
ถามว่าอยากจะฝืนใช้ 14-18 หลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดบัลลาสต์คอยล์ทองแดงชนิดไม่ติดคาปาซิเตอร์ คำตอบคือได้ครับ แต่ต้องรับความเสี่ยงเอาเองนะครับในเรื่องอายุการใช้งาน และเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานคือความร้อนจากหน้าสวิทช์ที่เมื่อใช้ไปนานๆต้องมีการตรวจสภาพและเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาอันสมควรเช่น ในการทดสอบของมอก. ในเรื่องของหลอดไฟฟลูอเรสเซนต์ ถ้าต่อเยอะๆมากถึง 38 หลอด สามารถตัดต่อได้5000 ครั้ง (ซึ่งเป็นการทดสอบแบบไม่สามารถย้อนกลับได้ และประมาณการหรืออนุมานเชิงสถิติว่าทุกสวิทช์น่าจะใช้งานได้ ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกสวิทช์ต้องผ่านที่5000ครั้งเป็นเรื่องเข้าใจผิด) ถ้าจะเอาตามเกณฑ์การทดสอบเปิดปิดวันละครั้งควรจะได้12ปี
แต่ถ้าคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากควรใช้ ไม่เกิน16หลอด 3ปีเช็กสภาพ 6ปีก็เปลี่ยน อย่างนี้ก็พอได้ครับ แต่โดยหลักแล้วควรคำนวนให้มีการใช้โหลดผ่านสวิทช์ให้พอเหมาะ ถ้าเป็นอุปกรณ์ตามบ้านควรคำนวนว่ามันจะใช้งานได้15-25ปี(ยาวๆถึง30ปีขึ้น)โดยที่ไม่เคยเกิดความผิดปรกติขึ้น แต่ถ้าเคยผิดปรกติเช่นเคยช็อตขาหลอดไฟเคยไหม้ติดๆดับอย่างนี้อาจทำให้สวิทช์ไฟที่เปิดปิดเกิดความผิดปรกติขึ้นด้วยควรหมั่นสังเกตให้มากครับ
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการต่อโหลดหลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดบัลลาสต์ทองแดงและไม่ติดคาปาซิเตอร์เท่านั้น ไม่ใช่หลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดบัลลาสต์อีเล็กทรอนิกส์ หรือแบบชนิดที่ติดแค๊ปเพื่อแก้ไขค่าพาวเวอร์แฟ็กเตอร์ ซึ่งจำนวนหลอดที่ควรใช้งานอย่างปลอดจะน้อยกว่านี้เป็นอันมาก เพราะมีกระแสกระชากตอนเปิดไฟสูงกว่ามาก และมีอันต้องศึกษาต่อไป
เอาล่ะครับ มาลองดูภาพหน้าสวิทช์กันจริงๆ สวิทช์พานา 16A VS รีเลย์ ออมรอน 10A สังเกตุดูหน้าคอนแทกของทั้งสองยี่ห้อ จะเห็นว่า หน้าสวิทช์หรือหน้าคอนแทกของออมรอนใหญ่กว่าเห็นๆ ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ครับ
เนื่องจากแต่ละสวิทช์แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นสร้างมากเพื่อให้ใช้งานได้ต่างๆกันการเปรียบเทียบเฉพาะขนาดสวิทช์แล้วระบุว่าตัวใหญ่ทนกว่าซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในรีเลย์สวิทช์ของออมรอน ly10 มีหน้าสัมผัสกลมทั้งสองด้านถูกสร้างมาให้เก่งแบบกลางๆต่อโหลดหลายๆอย่างได้แต่ไม่มาก เช่นนำไปใช้กับมอเตอร์เล็กๆได้ขนาดไม่เกิน250 วัตต์ 220Vac ซึ่งถ้าไปหาด้าตาชีทอ่านเขาทดสอบตามUL608 ได้1/3hp สามารถทนการใช้งานได้ประมาณ6พันครั้งเป็นต้น แต่โดยทั่วไปที่ผมเห็นใช้ๆกันอยู่จะใช้กับมอเตอร์ทดรอบACที่ไม่เกิน100วัตต์ใช้ได้นานหลายปีทีเดียว
ในการคำนวนเมื่อนำไปใช้งานทั่วๆไปของรีเลย์หรือสวิทช์อื่นๆที่ผ่านมาตรฐานการทดสอบด้านใดบ้างก็สามารถคำนวนเลือกโหลดให้ใช้งานได้ไม่เกินพิกัดกระแสที่ระบุไว้ในสวิทช์โดยเฉพาะในเรื่องกระแสกระชาก ถ้าคำนวนแล้วไม่เกินพิกัดและมาตรฐานระบุว่าใช้งานได้กับอุปกรณ์ดังกล่าวทั่วๆไปเช่น หลอดไฟชนิดใด หรือมอเตอร์แบบไหน เป็นต้น และคู่มือสวิทช์มีการระบุจำนวนครั้งที่ผ่านการทดสอบจริงผ่านขนาดโหลดที่ระบุแล้ว
เราสามารถใช้กระแสกระชากของโหลดที่เราจะต่อนำมาคำนวน เพื่อนำไปต่อโหลดใช้งานกับสวิทช์หรือรีเลย์ โดยนำมาเป็นฐานคำนวนในเบื้องต้นได้และพอจะทำความเข้าใจเรื่องอายุการใช้งานได้ยาวนานอย่างไรก็ต้องมาจากฐานการทดสอบจริงเท่านั้น ตัวอย่างการคำนวนก็คงเหมือนกับสวิทช์เปิดปิดไฟส่องสว่างตามบ้าน ยี่ห้อpanasonic รุ่น WEG5001K ที่ยกตัวอย่างไป
ส่วนเนื้อหาอื่นๆคงหาอ่านได้ใน วิธีการคำนวนอย่างละเอียด ความเป็นมาเป็นไป หาอ่านได้ที่>> การเลือกสวิทช์ รีเลย์ คอนแทกเตอร์ หรือเบรกเกอร์ จาก กระแสไฟ inrush current และกระแสไฟอื่นแยกตามชนิดโหลด
-
คลิ๊ก> หมวดหมู่ความรู้
Email :
. . pui108108@yahoo.com
Line ID :
. . pui108diy
โทร: .. 089-797-9411
blog word press :
. . . pui108diy.com/wp/
รูป Flickr :
. . . ./photos/pui108diy/
รูป Wiki commons :
. . ./wiki/User:Pui108108
Pinterest :
. . . ./pui108108/
Youtube :
. . . ./user/p108108
หน้าที่เข้าชม | 214,168 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 167,913 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ก.ย. 2568 |